1.การเล่นว่าว
การเล่นว่าวเป็นการละเล่นแบบชาวบ้าน ว่าวรูปสี่เหลี่ยม (ย็อน) ทำขึ้นด้วยการขึงไม่ไผ่บนแผ่นกระดาษ ชังโฮจิ ตามขวางและเย็บเข้าติดกันเพียงเท่านี้ ว่าวก็พร้อมจะถูกปล่อย ให้ลอยขึ้นไปในท้องฟ้า
การเล่นว่าวเป็นที่นิยมกันมาก โดยเฉพาะในวันประเพณีต่าง ๆ เช่นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติหรือวันฉลองอื่นของชาวบ้าน มีการชิงชนะเลิศการเล่นว่าวไปหลาย ๆ เมืองในเกาหลี
2.นอลตุยกี (กระดานหก)
กระดานหกเป็นประเพณีการละเล่นแบบชาวบ้านสำหรับสุภาพสตรี วิธีการก็คล้ายกับม้ากระดกแบบตะวันตกนั่นคือ มีแผ่นไม้ยาว ซึ่งส่วนกลางจะตั้งอยู่บนกองฟางที่แห้งแข็ง ผู้เล่นจะมี 2 คน โดยแต่ละคนจะผลัดกันกระโดดลงบนลายไม้แต่ละข้าง การละเล่นนี้มักจะเล่นกันในวันหยุดตามประเพณีต่าง ๆ เช่นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ วันชูซก หรือวันทาโน๊ะ
3.คีเนตุยกี (ชิงช้า)
ชิงช้านี้ก็เป็นการละเล่นแบบชาวบ้านอีกอย่างหนึ่งที่นิยมเล่นกันในหมู่สุภาพสตรี เช่นเดียวกับนอลตุยกี และนิยมเล่นกันในวันทาโน๊ะคึเนซึ่งเป็นชิงช้าของเกาหลีทำขึ้นโดยใช้เชือก 2 เส้นผูกติดกับแผ่นไม้และนำไปแขวนติดกับต้นไม้สูง หรือผูกติดกับไม้ซุง ซึ่งต่อเป็นคาน หญิงสาวชาวเกาหลีจะโล้ชิงช้าคึเนนี้ไปได้สูงทีเดียว คึเนตุยกีจึงเป็นการละเล่นที่ชาวบ้านทุกเพศทุกวัยเล่นกันในระดับประเทศ
การเล่นว่าวเป็นการละเล่นแบบชาวบ้าน ว่าวรูปสี่เหลี่ยม (ย็อน) ทำขึ้นด้วยการขึงไม่ไผ่บนแผ่นกระดาษ ชังโฮจิ ตามขวางและเย็บเข้าติดกันเพียงเท่านี้ ว่าวก็พร้อมจะถูกปล่อย ให้ลอยขึ้นไปในท้องฟ้า
การเล่นว่าวเป็นที่นิยมกันมาก โดยเฉพาะในวันประเพณีต่าง ๆ เช่นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติหรือวันฉลองอื่นของชาวบ้าน มีการชิงชนะเลิศการเล่นว่าวไปหลาย ๆ เมืองในเกาหลี
2.นอลตุยกี (กระดานหก)
กระดานหกเป็นประเพณีการละเล่นแบบชาวบ้านสำหรับสุภาพสตรี วิธีการก็คล้ายกับม้ากระดกแบบตะวันตกนั่นคือ มีแผ่นไม้ยาว ซึ่งส่วนกลางจะตั้งอยู่บนกองฟางที่แห้งแข็ง ผู้เล่นจะมี 2 คน โดยแต่ละคนจะผลัดกันกระโดดลงบนลายไม้แต่ละข้าง การละเล่นนี้มักจะเล่นกันในวันหยุดตามประเพณีต่าง ๆ เช่นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ วันชูซก หรือวันทาโน๊ะ
3.คีเนตุยกี (ชิงช้า)
ชิงช้านี้ก็เป็นการละเล่นแบบชาวบ้านอีกอย่างหนึ่งที่นิยมเล่นกันในหมู่สุภาพสตรี เช่นเดียวกับนอลตุยกี และนิยมเล่นกันในวันทาโน๊ะคึเนซึ่งเป็นชิงช้าของเกาหลีทำขึ้นโดยใช้เชือก 2 เส้นผูกติดกับแผ่นไม้และนำไปแขวนติดกับต้นไม้สูง หรือผูกติดกับไม้ซุง ซึ่งต่อเป็นคาน หญิงสาวชาวเกาหลีจะโล้ชิงช้าคึเนนี้ไปได้สูงทีเดียว คึเนตุยกีจึงเป็นการละเล่นที่ชาวบ้านทุกเพศทุกวัยเล่นกันในระดับประเทศ
4.พาดุก
พาดุกเป็นการละเล่นแบบกระดานโดยมีผู้เล่น 2 คน ในภาษาญี่ปุ่น เรียกว่า "โก" หรือหมากล้อม และได้รับความนิยมเล่นอย่างแพร่หลาย ในภาคตะวันออกไกล และทั่วโลกซึ่งผลัดกันวางหมากสีขาวและสีดำลงบนกระดาน พาดุกบัดนี้กลายเป็นการละเล่นสากลไปแล้ว และเล่นยากกว่าหมากรุก
พาดุกเป็นการละเล่นแบบกระดานโดยมีผู้เล่น 2 คน ในภาษาญี่ปุ่น เรียกว่า "โก" หรือหมากล้อม และได้รับความนิยมเล่นอย่างแพร่หลาย ในภาคตะวันออกไกล และทั่วโลกซึ่งผลัดกันวางหมากสีขาวและสีดำลงบนกระดาน พาดุกบัดนี้กลายเป็นการละเล่นสากลไปแล้ว และเล่นยากกว่าหมากรุก
5.ชางกี (หมากรุกเกาหลี)
ชางกีเป็นการละเล่นแบบกระดานคล้ายหมากรุก ซึ่งต้องมีผู้เล่น 2 คน เช่นเดียวกับหมากเดินทำด้วยไม้หรือพลาสติก บรรดานักเล่นหมากรุกทั้งหลายย่อมรู้จักตัวพระราชา เรือ ม้า และเบี้ย อื่น ๆ แต่คงไม่เคยเห็นช้างและปืนใหญ่ซึ่งไม่มีในหมากรุก
การละเล่นนี้และพาดุก ถือว่าเป็นการละเล่นแบบต้องใช้ยุทธศาสตร์ และยุทธวิธีต่าง ๆ ในการเอาชนะคู่ต่อสู้
ชางกีเป็นการละเล่นแบบกระดานคล้ายหมากรุก ซึ่งต้องมีผู้เล่น 2 คน เช่นเดียวกับหมากเดินทำด้วยไม้หรือพลาสติก บรรดานักเล่นหมากรุกทั้งหลายย่อมรู้จักตัวพระราชา เรือ ม้า และเบี้ย อื่น ๆ แต่คงไม่เคยเห็นช้างและปืนใหญ่ซึ่งไม่มีในหมากรุก
การละเล่นนี้และพาดุก ถือว่าเป็นการละเล่นแบบต้องใช้ยุทธศาสตร์ และยุทธวิธีต่าง ๆ ในการเอาชนะคู่ต่อสู้
6.ยุทนอริ (การละเล่นแบบไม้ 4 แท่ง)
ยุทนอริเป็นหนึ่งในการละเล่นที่นิยมเล่นกันในเดือนมกราคมในจันทรคติ และเป็นการละเล่นของเกาหลีแท้ ๆ ยุท เป็นคำ ๆ หนึ่งในเกมส์นี้ (โด, เก, กล, ยุท และโม) หมายความว่า "สี่" เกมส์มีความคล้ายคลึงกับ เกมส์พาชีสิ แต่การเล่นแบ่งออกเป็น 2 ทีม ซึ่งจะเดินหมากไปรอบ ๆ หลังจากการโยนไม้
ยุทนอริเป็นหนึ่งในการละเล่นที่นิยมเล่นกันในเดือนมกราคมในจันทรคติ และเป็นการละเล่นของเกาหลีแท้ ๆ ยุท เป็นคำ ๆ หนึ่งในเกมส์นี้ (โด, เก, กล, ยุท และโม) หมายความว่า "สี่" เกมส์มีความคล้ายคลึงกับ เกมส์พาชีสิ แต่การเล่นแบ่งออกเป็น 2 ทีม ซึ่งจะเดินหมากไปรอบ ๆ หลังจากการโยนไม้
เวปน่ารักมากค่ะ มีศัพท์เกาหลีให้ศึกษาเยอะเลย ถ้ามีรูปภาพประกอบเยอะหน่อยก็จะดีกว่านี้นะคะ พี่ชอบค่ะ
ตอบลบ